เนื้อหา:
การประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลออนไลน์
วิธีการค้นคว้าและใช้ประโยชน์จากข้อมูลออนไลน์เพื่อการเรียนรู้
การอ้างอิงและให้เครดิตแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง
กิจกรรม: การค้นหาข้อมูลในหัวข้อที่สนใจและการนำเสนอผลการค้นคว้าโดยอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง
เพลงโดเมน .th .ไทย ปลอดภัยน่าเชื่อถือ มาใช้กัมาใช้กันเถอะมาใช้กัมาใช้กันเถอะนเถอะนเถอะ
ปัจจุบันเรามักใช้เว็บไซต์เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการสืบค้น ดังนั้นเราจึงควรตรวจสอบความเชื่อถือของแหล่งที่มาของข้อมูลก่อน มิเช่นนั้นอาจสร้างความเสียหายได้ วิธีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล มีเทคนิคดังนี้
เว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลนั้น ต้องบอกวัตถุประสงค์ในการสร้างหรือเผยแพร่ข้อมูลในเว็บไซต์อย่างชัดเจน
การนำเสนอเนื้อหาต้องตรงตามวัตถุประสงค์ในการสร้างหรือเผยแพร่ข้อมูลของเว็บไซต์
เนื้อหาเว็บไซต์ไม่ขัดต่อกฎหมาย ศีลธรรม และจริยธรรม
มีการระบุชื่อผู้เขียนบทความ หรือผู้ให้ข้อมูลบนเว็บไซต์
มีการอ้างอิงแหล่งที่มาหรือแหล่งต้นตอของข้อมูล ที่มีเนื้อหาปรากฎบนเว็บไซต์
สามารถเชื่อมโยง (Link) ไปยังเว็บไซต์อื่นที่อ้างถึง เพื่อตรวจสอบแหล่งต้นตอของข้อมูลได้
มีการระบุวันเวลาในการเผยแผร่ข้อมูลบนเว็บไซต์
มีการให้ที่อยู่หรืออีเมล์ ที่ผู้อ่านสามารถติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้
มีช่องทางให้ผู้อ่านแสดงความคิดเห็น
มีข้อความเตือนผู้อ่านให้ใช้วิจารณาณในการตัดสินใจใช้ข้อมูลที่ปรากฎบนเว็บไซต์
ปัจจุบันจะพบเห็นข่าวการสร้างเว็บไซต์เลียนแบบเว็บธนาคาร หรือเว็บบัตรเครดิต แล้วมีผู้ใช้งานหลงเชื่อให้ข้อมูลกับกลุ่มมิจฉาชีพ จนสูญเสียเงินจำนวนมาก ดังนั้น ก่อนจะกรอกข้อมูลใดลงในเว็บไซต์ ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อน เช่น ดูจากโดเมนเนม หมายเลขไอพี หรือเราสามารถตรวจสอบโดเมนของเว็บไซต์ โดยใช้บริการของ whois.domaintools.com/
ชื่อโดเมนของประเทศไทย ศัพท์ทางเทคนิคเรียกว่า โดเมนระดับบนสุดหมวดรหัสประเทศ หรือCountry-Code Top-Level Domain (ccTLD) เป็นชื่อโดเมนเนมที่ลงท้ายด้วย .th ซึ่ง มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (THNIC Foundation) ได้รับอนุมัติจาก ICANN ให้เป็นผู้ดูแล สำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการใช้ชื่อโดเมนเนมที่ต้องการบ่งบอกความเป็นไทยด้วยการใช้นามสกุล .th
ข้อดีของ .th
❤️🩹การใช้โดเมน .th สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบุคคล/องค์กร ผู้ถือครองชื่อโดเมน เช่น บริษัทที่ใช้โดเมน co.th ก็แสดงให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต หรือ ลูกค้า เห็นว่าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนั้น มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายและยังดำเนินงานอยู่จริง
❤️🩹เป็นโดเมนของประเทศไทย แสดงถึงความเป็นคน หรือ องค์กร ไทย
❤️🩹ผู้ถือครองโดเมนเนมเป็นเจ้าของโดเมน 100% โดยผู้ให้บริการไม่สามารถแทรกแซงได้
❤️🩹สามารถขอชื่อ .ไทย ได้ฟรี!
❤️🩹มีการนำผลกำไร ตอบแทนคืนสู่สังคม โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาด้านอินเตอร์เน๊ตในประเทศไทย
❤️🩹เป็นชื่อโดเมนที่ยังมีชื่อดีๆ ชื่อสวย ๆ ว่างอยู่มากมาย
ที่มา : https://www.thnicfoundation.in.th
การอ้างอิงและให้เครดิตแหล่งข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น นี่คือแนวทางในการอ้างอิงและให้เครดิตแหล่งข้อมูลอย่างถูกต้อง
ความเชื่อถือได้: การอ้างอิงช่วยให้ข้อมูลที่นำเสนอมีความน่าเชื่อถือ และช่วยสนับสนุนข้อคิดเห็นหรือข้อสรุปที่นักเรียนทำขึ้น
การให้เครดิต: การอ้างอิงแหล่งข้อมูลช่วยให้เราสามารถให้เครดิตแก่ผู้ที่สร้างเนื้อหานั้นๆ
การหลีกเลี่ยงการลอกเลียนแบบ: การอ้างอิงช่วยให้นักเรียนรู้จักการทำงานอย่างมีจริยธรรมในด้านการเขียนและการสร้างเนื้อหา
ระบุแหล่งข้อมูล: นักเรียนควรจดบันทึกชื่อผู้เขียน วันที่เผยแพร่ ชื่อบทความ หรือชื่อเว็บไซต์ รวมถึง URL หากเป็นข้อมูลออนไลน์
รูปแบบการอ้างอิง: สอนนักเรียนเกี่ยวกับรูปแบบการอ้างอิงที่ใช้บ่อย เช่น APA, MLA หรือ Chicago โดยเลือกแบบที่เหมาะสมกับระดับการเรียนรู้ของนักเรียน
ตัวอย่างการอ้างอิง:
APA: ผู้เขียน, ชื่อบทความ, ปีที่เผยแพร่, ชื่อเว็บไซต์, URL
MLA: ผู้เขียน, "ชื่อบทความ," ชื่อเว็บไซต์, วันที่เผยแพร่, URL
เครื่องมือสร้างการอ้างอิง: แนะนำให้นักเรียนใช้เครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยสร้างการอ้างอิง เช่น EasyBib หรือ Citation Machine
การใช้งานแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้: สอนนักเรียนให้ใช้แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น ห้องสมุดดิจิทัล เว็บไซต์ของสถาบันการศึกษา หรือฐานข้อมูลวิชาการ
ตัวอย่างการเขียนบรรณานุกรม รูปแบบ APA
สมิธ, เจ. (2020). การศึกษาสิ่งแวดล้อม (พิมพ์ครั้งที่ 2). สำนักพิมพ์แห่งประเทศไทย.
โจนส์, เอ. (2019). การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ. วารสารวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม, 34(3), 45-60.
กองบรรณาธิการ. (2022). สถิติการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทย. เว็บไซต์สถิติประเทศไทย. https://www.statsthailand.go.th/statistics/environment
ตัวอย่างการเขียนบรรณานุกรม รูปแบบ MLA
สมิธ, เจ. การศึกษาสิ่งแวดล้อม. สำนักพิมพ์แห่งประเทศไทย, 2020.
โจนส์, เอ. "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ." วารสารวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม, เลขที่ 34, ฉบับที่ 3, 2019, หน้า 45-60.
กองบรรณาธิการ. "สถิติการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทย." เว็บไซต์สถิติประเทศไทย, 2022, https://www.statsthailand.go.th/statistics/environment.
กิจกรรมการเรียนการสอนหัวข้อ "การค้นหาข้อมูลในหัวข้อที่สนใจและการนำเสนอผลการค้นคว้าโดยอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง" สามารถจัดทำได้ดังนี้:
ชื่อกิจกรรม: "นักค้นคว้าสารสนเทศ"
วัตถุประสงค์:
1. เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้วิธีการค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
2. เพื่อพัฒนาทักษะในการนำเสนอข้อมูล
3. เพื่อให้ความสำคัญกับการอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม:
1. **การแบ่งกลุ่ม**:
- แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มกลุ่มละ ..... คน (แล้วแต่พิจารณาของครูผู้สอน)
2. **การเลือกหัวข้อ**:
- ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อที่สนใจ เช่น สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี อาหาร สัตว์ เป็นต้น
- อาจให้ตัวอย่างหัวข้อเพื่อช่วยในการเลือก
3. **การค้นหาข้อมูล**:
- นักเรียนแต่ละกลุ่มจะต้องค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น หนังสือ เว็บไซต์ที่มีการรับรอง หรือฐานข้อมูลออนไลน์
- นักเรียนต้องบันทึกแหล่งข้อมูลที่ใช้และข้อมูลสำคัญที่ค้นพบ
4. **การจัดทำสื่อการนำเสนอ**:
- นักเรียนจะต้องจัดทำสื่อการนำเสนอ เช่น สไลด์พรีเซนเทชัน โปสเตอร์ หรือวิดีโอ โดยต้องรวมข้อมูลที่ค้นพบและอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ใช้
5. **การนำเสนอ**:
- ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานของตนต่อเพื่อนในชั้นเรียน โดยใช้เวลาไม่เกิน 10-15 นาทีต่อกลุ่ม
- ส่งเสริมให้กลุ่มอื่นๆ ซักถามหรือแสดงความคิดเห็นหลังจากการนำเสนอ
6. **การประเมินผล**:
- ครูสามารถประเมินจากความถูกต้องของข้อมูล การอ้างอิงแหล่งที่มาที่ถูกต้อง รวมถึงการนำเสนอของกลุ่ม
วัสดุอุปกรณ์:
- คอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตสำหรับการค้นหาข้อมูล
- เครื่องโปรเจคเตอร์ ทีวี (ถ้ามี) สำหรับการนำเสนอ
- วัสดุสำหรับจัดทำโปสเตอร์ (กระดาษ, สี, กาว)
สรุปกิจกรรม:
- ครูสามารถสรุปสิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องและการอ้างอิงที่สำคัญ พร้อมทั้งกระตุ้นให้นักเรียนคิดต่อว่าข้อมูลที่ตนค้นพบสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร
การจัดกิจกรรมนี้จะช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการค้นคว้าข้อมูลและการนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเข้าใจความสำคัญของการอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในงานวิจัยและการเรียนรู้ในอนาคต
